วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กลยุทธ์การหามุมมองที่หลากหลาย

30 August 2010

วันนี้ตอนบ่ายได้ไปตะลุยท่องเที่ยวถึง 4 ห้าสรรพสินค้าใหญ่ๆที่อยู่ใจกลางกรุ่งเทพฯ 55+ เหนื่อยมากๆ ><" เริ่มจาก ..
ไปเอ็มโพเรียม : กะว่าจะไปดูนิทรรศการ "ผี" ที่ TCDC แต่ทว่า .. เขาปิดวันจันทร์ 55555
ไปเซนทรัล ชิดลม : Midnight Sale เพื่อนอยากไปดูเสื้อร้าน Kloset แต่เผอิญแบบที่จะเอา ไม่มีไซส์ M แต่ทางร้านเช็คของให้ พบว่า .. มีของที่ Isetan Central World -*-
ไป Isetan Central World : ไปซื้อเสื้อเป็นเพื่อนเพื่อน ^^"
กลับมาที่สยามพารากอน : พักเหนื่อย หาอะไรทาน แล้วก็เข้าห้องน้ำก่อนกลับบ้าน 555+

กลับมาถึงบ้าน รู้สึกเหนื่อยมากกกกกก ก ขาลากเลย หุหุ >.<



27 August 2010 .. วันที่เก้าของการเรียนวิชา Innovative Thinking ..


วันนี้อาจารย์ธงชัย สอนเรื่อง "กลยุทธ์การหามุมมองที่หลากหลาย" ซึ่งมี 2 วิธีหลักๆ คือ

1. เทคนิคการระดมสมองแบบดั้งเดิม (Brainstroming) ซึ่งมีกฏการใช้เพียงง่ายๆ นั่นก็คือ
- ควรแสดงความคิดออกมาอย่างอิสระ
- ความคิดยิ่งแปลกยิ่งดี
- ไม่ควรวิจารณ์ความคิดของผู้อื่น
- ควรช่วยกันแสดงความคิดออกมาให้ได้ปริมาณมากๆก่อน แล้วค่อยนำมาคัดเลือกสิ่งที่นำไปใช้ได้จริง

แต่ปัญหามันติดอยู่ที่ว่า .. เมื่อคนเราต้องเผชิญหน้าเวลาประชุมกัน มักจะไม่กล้าพูดแสดงความคิดเห็นออกมา ทำให้ได้ความคิดเห็นที่น้อยลง และนอกจากนี้ยังมีบางคนที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์ความคิดของผู้อื่นอีกด้วย

ซึ่ง .. วิธีแก้ไขง่ายๆ ก็คือ ..ใช้การระดมสมองโดยการให้แต่ละคนเขียนความคิดของตนเองลงในกระดาษให้ได้มากที่สุด จากนั้นส่งเวียนกันในกลุ่มให้เพื่อนคนอื่นได้อ่าน และแสดงความคิดเห็นต่อ วิธีการนี้จะทำให้ได้ความคิดเห็นมากขึ้น และยังป้องกันการวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่นได้อีกด้วย :))

ตัวอย่างคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่ควรใช้ (ซึ่งอาจารย์เรียกบุคคลที่ชอบใช้คำเหล่านี้ว่า "ผีดูดพลัง" ฮ่าๆๆๆ ^__^)
- ไม่ได้ผลหรอก
- ความคิดนี้ดีก็จริง แต่..
- แล้วใครจะทำเล่า ?
- เราเคยลองมาแล้ว
- ไม่เห็นจะเข้าท่าเลย
- คุณมาผิดทางแล้ว
- ถ้าความคิดนี้ดีจริง คงมีคนคิดมาก่อนแล้ว


2. เทคนิคการคิดแบบหมวก 6 ใบ (Six Thinking Hats)ของ Edward De Bono เป็นวิธีการคิดแบบขนาน อุปมาอุปไมยโดยใช้หมวก 6 สี นั่นคือ
- หมวกสีขาว คือ เน้นความจริง และ ข้อเท็จจริงจากสิ่งนั้นๆ
- หมวกสีแดง คือ เรื่องอารมณ์
- หมวกสีเหลือง คือ การมองโลกในแง่ดี ทางบวก
- หมวกสีดำ คือ ด้านลบของสิ่งนั้น
- หมวกสีเขียว คือ ความคิดในเชิงสร้างสรรค์
- หมวกสีน้ำเงิน คือ เรื่องการควบคุม จัดการ และวางแผน

หลักการก็คือ .. เวลาเราจะหาไอเดียอะไรใหม่ๆ ให้เราหาแนวคิดจากแนวทางทั้ง 6 แบบ จำแนกออกมาเป็นลักษณะต่างๆ เราก็จะได้ความคิดที่หลากหลายขึ้น แล้วยังมองในมุมมองที่กว้างขวางขึ้นอีกด้วย ;D


จะเห็นได้ว่า .. วันนี้เราได้เทคนิคการเพิ่มปริมาณไอเดียให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม บางทีการหาแนวคิดอยู่เพียงคนเดียว ก็อาจทำให้เรามองในมุมมองเดียว มองแคบๆ ทำให้ได้ไอเดียน้อยลง แต่ถ้าเราร่วมกันระดมสมองกับเพื่อนๆ หรือ ลองคิดในมุมมองที่กว้าง และหลากหลายขึ้นอย่างเทคนิคหมวก 6 ใบ เราก็จะได้แนวคิดที่มากขึ้น และหลากหลายขึ้น ทำให้เป็นประโยชน์ในการเลือกแนวคิดเและนำไปประยุกต์ใช้ต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ลองใส่กันมั้ย?

26 August 2010


วันนี้เปิดเจอเว็บไซต์น่าสนใจเกี่ยวกับรองเท้าส้นสูง เลยอยากเอามาแบ่งปันทุกคน จริงๆแล้ว .. จิ๊บก็เป็นคนตัวสูงนะคะ (170 cm) แต่บ้ารองเท้าส้นสูงมากๆๆๆๆ ><" ชอบซื้อ ชอบใส่ มีแทบทุกสี 55+ แต่ก็ยอมรับนะคะว่าเมื่อยมากก -*- บางทีก็เดินแทบทั้งวันเลย แต่ในเมื่ออยากสวย ก็ต้องอดทนค่ะ แฮ่ๆ ^^"

มี guru ของเมืองไทยในด้านแฟชั่นเคยบอกไว้ว่า "การใส่รองเท้าส้นสูง ก็เหมือนกับการเก็บชั่วโมงบิน ต้องใส่เดินบ่อยๆ ไม่ไหวก็พัก แล้วเราจะสามารถใส่ส้นสูงเดินได้นานขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ไม่เมื่อย แต่มันต้องใช้เวลา ความอดทน และฝึกบ่อยๆ ^_^ " นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า "ผู้หญิงคนไหนใส่ส้นสูงไม่เป็น ถือว่าไม่ใช่ผู้หญิง - -;"


ลอง มั้ย! ส้นสูง 12 นิ้วดีไซน์แปลก

รู้กันในแวดวงแฟชั่นว่าส้นสูงแบบไหน ดีไซน์ใครที่ว่าเริ่ดๆ ก่อนจะแจ้งเกิดก็ต้องผ่านเท้าสวยๆ ของ วิคตอเรีย เบ็คแฮม มาก่อนประหนึ่งดัชนีชี้ชะตารองเท้าว่าจะรอดหรือร่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ๊วิคนั้นชื่นชอบนักกับรองเท้าส้นสูงพิเศษไม่ต่ำกว่า 8 นิ้ว

วันนี้ก็เลยมีนักออกแบบรองเท้าคนหนึ่งออกมาขอ "ลองดี" กับแฟชั่นนิสต้าทั้งหลาย ด้วยการส่งรองเท้าส้นสูงพิเศษที่สูงได้ใจคนตัวเตี้ยถึง 12 นิ้ว...เรียกว่าหนึ่งไม้บรรทัดพอดีเป๊ะ พ่วงดีไซน์ที่นักออกแบบเจ้าไหนๆ ก็คงไม่เสี่ยงกับเท้าของลูกค้าและค่าขึ้นโรงขึ้นศาลหากถูกฟ้อง แต่เขาก็ทำออกมาจนสำเร็จออกมาเป็นรองเท้าอย่างที่เราเห็นกัน




มิไฮ แอลบู ดีไซเนอร์ชาวโรมาเนีย ผู้ออกแบบรองเท้าชื่อก้องในวงการนักออกแบบอินดี้จนถูกขนานนามว่าเป็นสถาปนิก รองเท้า เพราะแต่ละแบบที่เขาคิดค้น โดยเฉพาะส้นรองเท้านั้นมักจะพลิกแพลงและหวือหวา แถมราคายังเสียดแทงหัวใจ เพราะรวยอย่างเดียวไม่ได้ ต้องชอบความแหวกแนวด้วย หลักฐานปรากฏอยู่บนป้ายราคาเพราะว่ารองเท้า "แฮนด์เมด" ทำมือล้วนๆ ของเขานั้น บางคู่ตกอยู่ราวๆ คู่ละ 1,200 ปอนด์ แน่นอนว่ามันคือค่าวัสดุชั้นดี ค่าฝีมือ และค่าไอเดียที่หาซื้อไม่ได้ง่ายๆ ตามห้างร้านธรมดา

ดีไซเนอร์สมองใสเผยว่า รองเท้าของเขานั้นถึงแม้จะสูงจนน่าหวาดเสียว แต่เขาคำนวณทุกขั้นตอนการออกแบบแล้วว่า ระหว่างพื้นและส้นรองเท้าควรจะทำมุมหรือต้านแรงกดทับอย่างไรให้ผู้สวมใส่ ปลอดภัยทุกย่างก้าว เพื่อให้สมกับฉายาสถาปนิกรองเท้า เขากล้าแม้กระทั่งเอาอัญมณีมีราคาทำเป็นส้น และแน่นอนอีก...เขาคำนวณความแข็งของวัสดุเพื่อเป็นที่รองรับทุกสเต็ปของสาวๆ มาเป็นอย่างดี โดยที่สาวเตี้ยตัน (แต่เงินถึงซะอย่าง) ไม่ต้องอยู่กับปมด้อยเรื่องความสูงอีกต่อไป จ่ายให้เขาพันปอนด์นิดๆ ก็จะได้ความสูงสง่าระดับน้องๆ นางแบบมาประดับตัว

"รองเท้าส้นสูงมันเป็นอะไรที่คลาสสิคสำหรับสาวตัวเล็ก ขาสั้น แล้วมันเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ได้จริงๆ นะ" มิไฮเอาประสบการณ์ออกแบบรองเท้ากว่า 20 ปีเป็นประกัน แถมฟันธงว่าต่อไปประชากรสตรีในโลกจะมีพัฒนาการเชิงถดถอย คือจะมีร่างกายที่เล็กลง ส่วนสูงก็ลดลงไปด้วย ถ้าไม่พูดเพื่อการค้า...เขาบอกว่า รองเท้าส้นสูงในอนาคตมีแนวโน้มที่จะออกแบบมาให้สูงขึ้นๆ จนส้นตึกรุ่นคุณแม่ที่ว่าฮาเฮมานาน อาจกลายเป็นรองเท้าแคชชวลธรรมดาๆ ก็ได้ในวันข้างหน้า




ผลงานออกแบบรองเท้าคู่เด่นของเขาที่คนมักกล่าวถึง ก็มีรองเท้าส้นพิเศษที่ขาส้นทำจากโลหะฉาบสีมรกต แต่ใช้หัวกะโหลกเป็นตัวยึดส้นกับพื้นรองเท้าเข้าด้วยกัน ไม่หนำใจยังประดับขนนกยูงรำแพนด้านหลังให้มันอลังการขึ้นไปอีก แต่ขอโทษ...ผลงานแบบนี้ไม่ได้ทำให้ใครขยาด เขาได้รับออร์เดอร์จากลูกค้าเฉพาะในโรมาเนียบ้านเกิดไม่ต่ำกว่าหนึ่งโหล สำหรับการออกแบบตัดเย็บรองเท้าแบบวันบายวันในคอลเลคชั่นใหม่ที่ทำสถิติความ สูงของตัวเองขึ้นไปเป็น 12.2 นิ้ว หรือประมาณ 35 ซม. และผลิตออกมาเฉพาะเบอร์เล็กๆ เท่านั้น จะเจาะกลุ่มลูกค้าแบบไหนได้ ถ้าไม่ใช่ลูกค้าร่างเล็กทั้งหลายที่อยากสูงสง่าทันใจ




"คู่นี้ถ้าเป็นสาวๆ ที่สูงซักประมาณ 5 ฟุต 9 นิ้ว รับประกันได้ว่าถ้าคุณใส่ต้องเป็นตึกเดินได้แน่ๆ" เขาขู่ให้ขำ

เมื่อถามถึงแรงบันดาลใจว่าอะไรทำให้เขาลุกขึ้นมาออกแบบรองเท้า แทนที่จะไปออกแบบอาคารหรืองานสถาปัตยกรรมตามที่ร่ำเรียนมา เขาบอกว่า เขาชอบศิลปะ และหากทำให้ศิลปะมีค่าตามสูตรที่คำนวณออกมา มันก็น่าจะทำอะไรที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของมนุษย์ได้ง่ายขึ้น หวยจึงมาตกที่งานออกแบบรองเท้า นอกเหนือไปจากนั้น แรงบันดาลอีกอย่างที่ทำให้รองเท้าของเขาออกมาวิจิตรพิสดาร คงมาจากความหลงใหลในงานสถาปัตยกรรมของศิลปินระดับโลกอย่าง คอนสแตน ติน แบรนคูซิ ประติมากรชาวโรมาเนีย และ แอนโตนิโอ กาอูดิ ผู้เนรมิตปราสาทอันลือลั่นแห่งแคว้นคาตาลันในสเปน

"จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้ทำอะไรกับเรื่องออกแบบมากนักหรอก บางครั้งก็ลอกแบบเขามา" มิไฮโจ๊กถึงตัวเขาเองอย่างอารมณ์ดี เพราะเราเชื่อว่าเขาพูดเล่น

เพราะอะไร...ก็รองเท้าส้นสูงบาดใจภายใต้ลายเซ็นของเขา ไม่ได้มีเรื่องราวให้คนพูดถึงเพียงแค่ "ความสูง" ไม่เชื่อก็ลองไล่ดูสิว่า รองเท้าของเขามีดีไซเนอร์คนไหนกล้าท้าชนในความบรรเจิดของไอเดียบ้าง

แวะชมรองเท้าสุดล้ำของมิไฮ แอลบู ได้ที่ www.mihaialbu.ro/




ได้เป็นนางแบบเมื่อไหร่ .. จะขอซื้อรองเท้าของมิไฮไว้สักคู่แล้วกันะค๊าา 55+ ;DD


ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.me-dzine.com/intrend/Shoe-mihaialbu.html

วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เมื่อของใหม่มา .. แล้วของเก่าหล่ะ?

25 August 2010

พอดีวันนี้ต้องเปิดเช็คเมลล์งานที่เพื่อนส่งมา จึงบังเอิญได้เห็นข้อมูลเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับเทคโนโลยีในหน้าแรกของเว็บไซต์ MSN เลยอยากเอามาแนะนำให้เพื่อนๆทุกคนได้อ่านดู โดยเฉพาะคนที่กำลังอยากเปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องใหม่ แต่ไม่รุจะทำอย่างไรก้บเครื่องเก่าดี เอะ.. มันก็ยังใช้ได้อยู่นะ แถมขายก็ไม่ได้ราคาด้วย (ซึ่งขณะนี้จิ๊บก็กำลังประสบปัญหานี้อยู่ = =;) ลองอ่านกันดูนะจ๊ะ ในเมื่อกิเลสมันตัดได้ยาก 55+ เผื่อจะได้ไอเดียใหม่ๆในการจัดการปัญหากับเจ้าเครื่องเก่าได้ :)



5 วิธีแก้เซ็ง เอามือถือเก่าไปทำอะไรดี ?



ช่วงนี้มีแต่มือถือรุ่นใหม่ๆน่าใช้ออกมายั่งเงินในกระเป๋ามากมายหลายรุ่น โดยเฉพาะใครที่กำลังรอ iPhone 4 ตอนนี้ก็นอนนับถอยหลังกันได้เลยเพราะอีกไม่ถึงเดือนมันก็คงมานอนเล่นอยู่ใน บ้านเราแน่ๆ ปัญหาเวลาจะซื้อมือถือใหม่ที่ผมเชื่อว่าหลายๆคนต้องเจอแน่ๆก็คือ" แล้วเราจะทำอย่างไรกับมือถือเก่าเราดีนะ เป็น PDA Phone เสียด้วย" แน่นอนว่า PDA Phone ย่อมทำอะไรได้มากกว่ามือถือทั่วๆไปแน่นอน ประโยชน์การใช้งานมันก็หลากหลายกว่า

ผมเชื่อว่าหลายๆคนไม่สามารถทำใจ กับราคามือสองของเครื่องที่เราซื้อมาได้อย่างแน่นอน ผมลองยกตัวอย่างราคารับซื้อมือสองในช่วงกลางปี 2553 ให้ดูคร่าวๆก็แล้วกันนะครับ ถ้าใครจะขาย Omnia 16GB รุ่นแรก ราคารับซื้อไม่เกิน 3 พันบาท แต่ซื้อมาเกือบสองหมื่น , Omnia II ราคารับซื้อไม่เกิน 5 พันบาท , HTC HD2 ราคารับซื้อไม่เกิน 7 พันบาท , HTC Touch 3G ราคารับซื้อ 2 พันบาท ,HTC Hero รับซื้อไม่เกิน 5 พันบาท , HTC Tattoo ก็สองพันนิดๆ ราคาทั้งหมดนี้คือราคาเท่าที่ไปเดินสำรวจมาเมื่อไม่นานนี้

พอเห็นราคาแบบนี้กลืนน้ำลายไม่ค่อยลงจริงๆ แต่สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ซื้อแพงขายถูกเป็นเรื่องธรรมชาติของสินค้าไอที ต้องทำใจ ทำได้แค่เพียงเลือกรุ่นที่ราคาตกช้าที่สุดก็เท่านั้นเอง เอาหละครับในเมื่อราคารับซื้อมันโหดร้ายทำใจไม่ได้ เราจะเอามือถือเก่าเรามาทำไรดีนะ ลองมานั่งคิดกันเล่นๆดีกว่า อย่าเพิ่งตอบว่า " ก็ที่ทับกระดาษไง" เพราะมันเป็นประโยชน์อย่างสุดท้ายที่มือถือทั่วโลกสามารถทำได้เหมือนกัน

PDA Phone ไม่ใช่มือถือธรรมดา มันมีลูกเล่นและความสามารถที่มากมาย และเราน่าจะใช้มันได้ประโยชน์คุ้มค่ามากว่า 3 พันบาท ที่ร้านรับซื้อเค้าตีราคาให้เราแน่นอน สำหรับผมเองมือถือเก่าๆ ถ้าไม่ได้ยกให้คนอื่น ก็จะนำมาใช้ประโยชน์ดังต่อไปนี้ครับ

1.ใช้เป็น Wireless Router ขนาดเล็ก

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows Mobile หรือ Android รวมทั้ง iPhone เครื่องเก่า สมัยนี้มันมีโปรแกรมประเภท Tethering อยู่หลายตัวที่น่าใช้ เพราะเราสามารถเอาเครื่อง PDA Phone เก่าๆของเราจับมันมาทำ Wirless Router ได้ง่ายๆ เหมือนกับเราพก เร๊าเตอร์ที่บ้านออกไปทุกสถานที่ได้อย่างสบาย ๆ เช่นเวลาไปประชุมงานข้างนอก ก็เอาเจ้ามือถือเก่าของเรานี่แหละใส่ SIM แล้วต่อ GPRS หรือ 3G เพื่อกระจายสัญญาณให้กับ เครื่อง Notebook หรืออุปกรณ์อื่นๆอย่าง iPad เพื่อให้คนอื่นๆ สามารถต่อเน็ตแบบไร้สายร่วมกับเราได้อย่างสบายๆ แต่ว่า.... ค่าใช้จ่าย เราจ่ายเองนะครับ ควรจะใช้ แพคเกจ แบบอันลิมิต ไม่งั้นเราจ่ายอ่วมแทนเพื่อนแน่ๆ ซึ่งประโยชน์ Wireless Router ที่ผมเอง ช๊อบบบ ชอบ ก็คือจับเอา iPhone หรือ แอนดรอยด์เก่าของผม นำมาส่งสัญญาณให้กับ iPad WiFi รุ่นประหยัด

คือตอนแรกชอบ iPad แบบ 3G นะครับแต่ราคามันแพงไป แล้วก็ไม่รู้ว่าจะใช้ประโยชน์กับ iPad ได้จริงหรือเปล่า เพราะตอนแรกมองแบบดูถูกมันว่ามันคือ iPhone ยักษ์ที่ไร้ประสิทธิภาพในการโทรออก แต่พอนำมาใช้จริงๆแล้วรักเจ้า กระดานชนวนปุโรหิตยุคดิจิตอลนี้เสียจริง เอาหละสำหรับการต่อ Wireless Router สำหรับ iPad ของผม หากเป็นบนเครื่อง แอนดรอยด์ ลองเข้าไปใน Market ในเครื่องแล้วหาโปรแกรมฟรีที่ชื่อว่า "Bernacle WiFi Tether" ส่วนถ้าเป็น iPhone ให้ลองโปรแกรมที่ชื่อว่า "MyWi 4.0 " ส่วน Windows Mobile ก็เพียบเลยครับ ลองหาคำ Keyword ว่า Tethering จะเจอเพียบเลย โปรแกรมประเภทนี้มีประโยชน์ดีครับ เพราะช่วยให้เราสามารถเล่น Net ได้แทบทุกที่ โดยไม่ต้องไปซื้อ Wireless USB Modem หรือ Wireless Router ใดๆทั้งสิ้น และโดยเฉพาะใครที่กำลังจะซื้อ iPad ลองโปรแกรมที่ผมแนะนำดูครับ เพราะว่าเราไม่จำเป็นต้องไปจ่ายเงินแพงๆ ซื้อรุ่น 3G เลย และไม่ต้องไปเสียค่าใช้จ่ายซื้อ SIM กับโปรแพคเกจต่างๆเพื่อนำ SIM มาใส่ในเครื่องอีกต่างหาก



2.ใช้เป็น Mini Storage

ลองมองหาช่อง USB ว่างๆในเครื่องคอมพ์เราสักช่องสิครับว่ามีเหลือบ้างไหม ถ้าเหลือว่างๆจะปล่อยมันเอาไว้ทำไม? อลงหยิบเอามือถือเก่าๆที่ความจุสูงมาทำเป็น External HD กันดูดีกว่า อย่างพวก Samsung Omnia ตัวเก่ามี่มีหน่วยความจำมากถึง 16GB แถมยังเพิ่มเติม memory ได้ผ่านทาง MicroSD ในตัว ซึ่งนับรวมๆแล้วน่าจะได้เป็นสิบๆ GB เลยทีเดียว ซึ่งมันจะกลายเป็น External HD ตัวจิ๋วๆ ที่พกพาไปไหนต่อไหนได้สะดวก อาจจะดีกว่า Thumbdrive ในแง่ที่ว่ามันไม่หล่นหายง่ายๆแน่นอน และถ้าเดินทางไปต่างจังหวัด ก่อนไปจับมันไปลงโปรแกรมพวก Alram Clock ที่ตัวเลขใหญ่ๆสักหน่อย เอาไว้ใช้เป็นนาฬิกาปลุกหัวเตียงก็ดีเหมือนกัน

3. WiFi Phone

อีกประโยชน์ที่น่าสนใจก็คือเราสามารถใช้งานกับเทคโนโลยีที่มาแบบเรื่อยๆแต่แรง นั่นก็คือ WiFi Phone โดยเราสามารนำเอามือถือเก่าๆของเราที่มี WiFi สามารถนำมาใช้งานกับโปรแกรมพวก VOIP ได้หลากหลายเพื่อใช้ในการติดต่อที่ประหยัดมากขึ้น โดยสามารถค้นหาข้อมูลเรื่องนี้ได้ที่ http://www.skype.com/intl/en/get-skype/on-your-mobile/?cm_mmc=m102
โดยเฉพาะใครที่ใช้ iPhone รุ่นเก่าก็น่าลองใช้งาน Skype บน iPhone ดูครับเพราะลูกเล่นมันน่าสนใจทีเดียว

4. GPS

ผมเจอหลายๆคนที่เอาเครื่อง PDA Phone รุ่นเก่าๆจับมันมาทำ GPS ติดรถ เพราะลูกเล่นของ PDA Phone ตั้งแต่ยุคปี 2007 ขึ้นมาส่วนใหญ่จะมีฟังค์ชั่น GPS ในตัวเครื่องอยู่แล้ว แม้แบตมันจะเสื่อมแต่ยังไงเราก็ใช้มันต่อเข้ากับที่จุดบุหรี่ในรถยนต์อยู่ดี ดังนั้นประโยชน์ในการใช้มันเป็นเครื่องนำทางคงเป็นทางเลือกแรกๆที่เราน่าจะ หยิบมันมาปัดฝุ่นใช้งานกันดู ส่วนโปรแกรมด้าน GPS ในปัจจุบันก็มีหลากหลายครับ แล้วแต่เราจะเลือกใช้มัน



5. GPS Tracker สำหรับคนชอบเดินทาง

สำหรับใครที่ชอบขี่จักรยาน Mountain Bike ผมว่าเราลองหาเม๊า ที่จับตัวเครื่องกับตัวจักรยานแล้วเอาเครื่อง PDA Phone เก่าไปเราไปแปะไว้ก็ดีเหมือนกัน เช่นหากใครใช้เครื่อง Windows Mobile ลองหาโปรแกรมฟรีแวร์ที่ชื่อว่า GPS Sport Tracker ซึ่งเป็นฟรีแวร์เอามาลงในเครื่องดูครับ เพราะมันมีประโยชน์มากมาย เช่นวัด Speed ความเร็ว ความสูง เวลาต่างๆ รวมทั้งเส้นทางการเดินทางของเราทั้งหมด ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับ Google Map ได้ด้วย เป็นโปรแกรมฟรีที่ดีมากสำหรับคนชอบกีฬา มอเตอร์สปอร์ตแบบกลางแจ้ง ลองหาดาวโหลดได้ฟรีที่ http://www.freewarepocketpc.net/ppc-download-gps-sport-tracker.html



ผมมั่นใจว่าประสิทธิภาพการทำงานของมันน่าจะคุ้มกว่าเอาเครื่องไปขายร้านอย่างแน่นอนครับ เพราะผมลองแล้ว

ก็เป็นตัวอย่างง่ายๆที่เราพอจะหาได้จากเครื่องมือถือที่เป็น PDA Phone ตัวเก่าของเราที่มันยังมีประโยชน์อีกมากมาย มากกว่าตัวอย่างที่ผมนำมาแนะนำในวันนี้เสียอีก บางคนบอกว่าเอาไปลงเกมส์มันส์ๆให้ลูกเล่นแทนที่จะไปซื้อเครื่อง PSP หรือ Nintendo DS และบางคนบอกว่า กล้องในเครื่องบางรุ่นอย่างเช่นพวก Omnia มันตั้งหลายล้านพิกเซล ถ่ายมาก็ชัดเจนดี เอามาเป็นกล้องดิจิตอลสำรองก็ดีเหมือนกัน ก็แล้วแต่นะครับว่าใครมีไอเดียแบบไหน ลองเอาไปดัดแปลงกันดู ถ้าคิดไม่ออกจริงๆสงสัยคงต้องใช้มันเป็นที่ทับกระดาษราคาแพงไปก่อนก็ยังไหว

อุปกรณ์ไอทีไม่เพียงแต่มือถือ ยังมีอุปกรณ์หลายอย่างที่กลายเป็นขยะไฮเทคภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี ซื้อมาเรือนหมื่นเรือนแสนแต่กลายเป็นขยะที่ไม่มีค่าภายในช่วงเวลาไม่กี่ปี และทำลายสิ่งแวดล้อมเราอีกต่างหาก หากอุปกรณ์เก่าๆที่เรามีอยู่ยังใช้งานได้ดี ว่างๆลองหาเวลาหยิบมันออกมาปัดฝุ่นแล้วนึกดูดีๆครับผมเชื่อว่าประโยชน์มัน ยังพอมีอีกเยอะ ดีกว่าต้องไปเสียเงินเสียทองซื้ออุปกรณ์ใหม่ๆตลอดเวลานะครับ



พอจิ๊บได้อ่านแล้ว รู้สึกไม่น่าเชื่อว่า โทรศัพท์มือถือของเราจะสามารถทำอะไรได้มากกว่า การโทรเข้า โทรออก และส่งข้อความ 55+ ถ้าจิ๊บได้ซื้อเครื่องใหม่แล้ว จิ๊บจะเอาเครื่องเก่าไปทำเป็น GPS ในรถของตัวเองอย่างแน่นอน :DD

ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ http://technology.impaqmsn.com/article.aspx?path=spec&rid=0&id=11279

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

NLP: Neuro Linguistic Programing

24 August 2010

วันนี้มีเรียนวิชา ภาวะผู้นำ เวลาบ่ายตามปกติ แต่ทำม๊ายย ย ทำไม ก็ไม่รู้ ช่วงนี้รู้สึกเหนื่อยยย ย กว่าปกติ ง่วงนอนมากๆ แต่ก็พยายามตั้งใจเรียนให้มากที่สุด (นึกในใจ .. เดี๋ยวก็ 4 โมงเย็นแล้ว TT^TT)


20 August 2010 .. วันที่แปดของการเรียนวิชา Innovative Thinking ..

วันนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรพิเศษ "คุณชาตรี เตชะสมบูราณากิจ" มาบรรยายในหัวข้อเรื่อง The meaning of life แค่ได้ยินชื่อก็ ข น ลุ ก . . บรื๊ยย !! แล้ว 55+ นั่นสิ เราไม่เคยนึกเจาะลึกถึงประเด็นนี้เลยว่า แล้วความหมายชีวิตของเรามันคืออะไรกันแน่ ??

คุณชาตรีขึ้นต้นด้วยคำถามที่ว่า "อะไรคือปัจจัยแห่งความสำเร็จ?"

พ่อรวย?
ต้องฉลาด เรียนเก่ง?
หล่อ หรือสวย?
มีเส้น?
มีวัยวัฒิ?
หรือ .. เฮง?

คุณชาตรีให้นิสิตทุกคนปฏิบัติดังนี้ ก่อนที่จะเริ่มต้นเรียนรู้การประสบความสำเร็จ นั่นก็คือ ..
1. ห้ามคุยโทรศัพท์ในห้องเรียน เพราะจะเป็นการปิดกั้นการเรียนรู้ในขณะนั้น
2. ทำตัวเป็นพวก "น้ำไม่เต็มแก้ว" พยายามตักตวงความรู้ให้ได้มากที่สุด
3. มีพลังในการทำงาน
4. ขยาย comfort zone เปิดกว้าง ขยายขอบเขตส่วนบุคคลออกไป

เอาหล่ะ . . มาเปิดเผยปัจจัยความสำเร็จกัน !!!

20% มาจากเทคนิค ความรู้ และวิธีการ(ที่เราใช้เวลาเรียนรู้จากการเรียนในโรงเรียน และมหาวิทยาลัยมาเป็น สิบๆ ปี !!OoO OMG!!)
ส่วน 80% . . อยู่ที่จิตใจ !!! O.O#

ซึ่งจิตใจของเรานั้น แบ่งได้ 2 ส่วนคือ จิตสำนึก กับจิตใต้สำนึก และจะมีเส้นบางๆคั่นอยู่ระหว่างกลาง ทำให้เรายากที่จะเข้าไปถึงจุดนั้น



ฉะนั้น .. เราต้องเข้าใจจิตใต้สำนึกของเราให้ได้ ด้วยวิธีที่คุณชาตรีสอนก็คือ NLP: Neuro Linguistic Programing เป็นภาษาที่ใช้สื่อสารกับจิตใต้สำนึก ซึ่ง NLP มีต้นกำเนิดมาจากบุคคลสำคัญถึง 2 ท่าน คือ Richard Bandler และ John Grinder โดยสามารถดูวิธีการจากแผนภาพต่อไปนี้ ซึ่งเป็นกระบวนการการรับข้อมูลโดยผ่านระบบประสาทสัมผัส ผ่านขั้นตอนตามลูกศรจนเกิดเป็นพฤติกรรมขึ้น



นอกจากนี้.. คุณชาตรียังได้ให้นิสิตทุกคนทำ work shop เกี่ยวกับการจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราชอบกินแต่ไม่มีประโยชน์ต่อตัวเองจึงอยากที่จะเลิกโดยให้นึกถึงสิ่งที่เราไม่ชอบกิน ซึ่งมีวิธีการดังนี้

1. ให้นึกถึงสิ่งที่ชอบกินแล้วอยากจะเลิกกิน
2. ถามคำถามตามในกระดาษคำตอบ แล้วให้เพื่อนจดบันทึก
3. ให้นึกสิ่งที่ไม่ชอบกิน
4. ถามคำถามตามในกระดาษคำตอบ แล้วให้เพื่อนจดบันทึก
5. หาจุดต่างระหว่างสองสิ่ง
6. ให้จินตนาการสิ่งที่ชอบกินตามจุดที่ต่างของสิ่งที่เราไม่ชอบกิน

วิธีการนี้จะช่วยให้เราลดความอยากกินสิ่งนั้นได้เลยที่เดียว เวลาเห็นของที่ชอบ ก็ให้เราจินตนาการตามสิ่งที่เราไม่ชอบกิน ความอยากก็จะลดลง

การเรียนในคาบนี้ มีประโยชน์ต่อตัวจิ๊บมากๆ เพราะ คุณชาตรีสอนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์ทางจิตวิทยาโดยตรง จิ๊บสามารถนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้ทั้งในด้านการเรียนและการทำงานต่อไปในอนาคต นอกจากนี้เรื่องจิตใต้สำนึกนั้น ยังเป็นที่คนส่วนใหญ่คิดว่าไกลตัวและไม่สำคัญต่อการกระทำและการเลือกดำเนินชีวิตประจำวัน แต่เชื่อเถอะค่ะว่า ถ้าเราเข้าใจจิตใจของตนเองอย่างถ่องแท้ว่าเราต้องการอะไรอย่างแท้จริง เราก็จะสามารถจัดการกับชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน :DD

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ท่องเที่ยวไป .. สไตล์ ค. คนรักรถ

21 - 22 August 2010

เป็นสุดสัปดาห์ที่ทรห ดมากกๆ >.< เลยอยากมาเล่าให้ทุกคนฟัง มันก็ตลกดีที่ได้เจออะไร แปลกๆ และบังเอิ๊ ญ บังเอิญ ได้ขนาดนี้ 55+ ไม่รู้ใครเคยได้เจอแบบนี้รึป่าวนะคะ


เริ่มจากวันที่ 21 ..

สายๆ ออกไปทานข้าวแล้วก็พาคุณแม่ไปแต่งหน้า พอดีจะพาคุณแม่ไปถ่ายรูปชุดราชการที่ร้าน "ฉายาจิตรกร สาขาวังบูรพาภิรมย์" แถวๆเยาวราช คุณแม่บอกว่าร้านนี้ถ่ายรูปสวย และมีข้าราชการผู้ใหญ่มาถ่ายรูปอยู่บ่อยๆ ช่วงบ่ายๆที่ไป รถติด รถเยอะมากกกก -*- วุ่นวายสุดๆ แถมก็ไม่เคยมา ไม่คุ้นทางอีกต่างหาก

พอจอดรถหน้าร้านได้ หันไปทางซ้าย โอะ!! น้องสองสีชมพู!!!!น่ารักมากๆๆๆ <33 สงสัยจะสั่งทำพิเศษ เลย(แอบ)ถ่ายรูปมาให้ทุกคนได้ดูกันค่ะ (ขอบคุณคุณเจ้าของรถด้วยนะคะ :DD)





ตอนถ่ายรูป คนที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่แถวนั้นมองแบบ .. ทำอะไรน่ะ?? ฮ่าๆๆๆ เหมือนคนโรคจิตเลยเนอะ แอบถ่ายรูปรถคนอื่น ฮ่าๆๆๆ


วันนี้ วันที่ 22 ..

ภารกิจวันนี้.. 11 โมงไปส่งคุณแม่ที่พัทยา ก่อนเข้าคอนโดเลยแวะไปทานข้าวที่ร้าน "มุมอร่อย สาขาศรีราชา" และก็เอาอีกแล้ว . . พอจอดรถเสร็จ ลงจากรถมา Oh my Godd!!! นี่มันมหกรรมงานมอเตอร์โชว์หรืออย่างไรค่ะเนี่ย OoO!! รถสวยๆ แพงๆๆๆๆ จอดเต็มลานจอดรถร้านอาหารเลย แล้วก็ไม่รอช้า รีบถ่ายรูปเก็บไว้ โชคดีที่ไม่มีใครมามองตอนถ่ายรูปอีก 555+



Porche 2 คัน กับ Mazda RX-8 ป้ายแดงทั้งน้านน .. >w<



Z-4 ร่วม 10 !!! OoO (ฝั่งตรงข้ามเป็น SLK ร่วม 10 คัน เช่นกัน)โอยย ย .. จะเป็นลม



Highlight ของงานนี้ . . " Audi R8" สวยมากกกกก น้ำลายหก อยากได้ๆ ฮ่าๆๆ >//<



สุดท้ายค่ะ .. กลับมาที่มดตะนอ ย น้อง Mazda 2 ของจิีบเอง ตอนนี้วิ่งได้ 5432 กิโลเมตรแล้วค่า อิอิ ^^

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เก็บตกจากวันแม่ .. x)

18 August 2010

เก็บตกจากวันแม่ค่า ^__^ เนื่องจากผิดหวังกับรอดูปรากฎการณ์ฝนดาวตกในวันแม่ เที่ยงคืนก็แล้ว . . จนจะตีหนึ่ง ท้องฟ้าก็ยังไม่เปิด แถมมีฝนปรอยๆ อีกต่างหาก -*- ก็เลยอดดูไปตามระเบียบ ..

วันนี้ก็เลยหาข้อมูลปรากฎการณ์นี้มาฝากทุกๆคนค่ะ :))


คนไทยพลาดชม ฝนดาวตก เปอร์เซอิด วันแม่ เหตุมีเมฆเต็มท้องฟ้า



ฝนดาวตก เปอร์เซอิด หรือ ฝนดาวตก วันแม่


คนไทย พลาดชม ฝนดาวตกเปอร์เซอิด ฝนดาวตก วันแม่ เกิดวันที่ 11-12 สิงหาคม ของทุกปี เหตุมีเมฆและแสงจันทร์รบกวน ..

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์กรมหาชน) หรือ สดร. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) กล่าวว่า ฝนดาวตก เปอร์เซอิด Perseid Meteors shower หรือ ฝนดาวตก วันแม่ ที่เกิดขึ้นทุกวันที่ 11-12 สิงหาคม ของทุกปี จะมีอัตราการตกสูงถึง 100 ดวงต่อชั่วโมงในปีนี้ ฝนดาวตก เปอร์เซอิด จะเกิดขึ้นหลังเที่ยงคืนของวันที่ 11 คาบเกี่ยวกับเช้าวันที่ 12 สิงหาคม แต่น่าเสียดายที่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ไม่สามารถชมปรากฏการณ์ ฝนดาวตก เปอร์เซอิด เนื่องจากตรงกับช่วงฤดูฝน มีเมฆกระจายเต็มท้องฟ้า ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวยังมีแสงจันทร์รบกวน


"มีเพียงประเทศฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อน ท้องฟ้าโปร่ง สามารถมองเห็นปรากฏการณ์ ฝนดาวตก เปอร์เซอิด Perseid Meteors shower หรือ ฝนดาวตก วันแม่ ได้ชัดเจน ฝนดาวตก เปอร์เซอิด Perseid Meteors shower หรือ ฝนดาวตก วันแม่ จึงกลายเป็น ฝนดาวตก ยอดนิยมของชาวตะวันตกไป และภาพถ่าย ฝนดาวตก เปอร์เซอิด ที่ได้ก็จะมาจากทางอเมริกาเป็นส่วนมาก แต่ประเทศไทยยังมีโอกาสเห็นปรากฏการณ์ ฝนดาวตก ชนิดอื่นๆ โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายนจะมี ฝนดาวตก ลีโอนิดส์ Leonids ซึ่งปีนี้จะเกิดขึ้นหลังเที่ยงคืน ของวันที่ 17 พฤศจิกายน ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของท้องฟ้า โดยจะมีอัตราการตก ของ ฝนดาวตก ลีโอนิดส์ Leonids ประมาณ 40-50 ดวงต่อชั่วโมง แม้จะไม่มากนัก แต่อาจมีโอกาสเห็น ไฟร์บอล Fire Ball ซึ่งเป็น ฝนดาวตก ที่มีความสว่างคล้ายลูกไฟ และมีความสวยงามมาก" รศ.บุญรักษา กล่าว


ผู้อำนวยการ สดร. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในเดือนธันวาคมยังมี ฝนดาวตก เจมินิดส์ Geminids ซึ่งตรงกับวันที่ 13 ธันวาคม โดย ฝนดาวตก เจมินิดส์ Geminids จะเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป โดยปีนี้มีการคำนวณว่า อาจจะมีมากถึง 70-80 ดวงต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตาม คนไทยมีโอกาสมองเห็น ฝนดาวตก ลีโอนิดส์ และ ฝนดาวตก เจมินิดส์ ได้มากกว่า ฝนดาวตก เปอร์เซอิด Perseid Meteors shower หรือ ฝนดาวตก วันแม่ เนื่องจากปรากฏการณ์ ฝนดาวตก ทั้ง ฝนดาวตก ลีโอนิดส์ และ ฝนดาวตก เจมินิดส์ จะเกิดขึ้นในช่วงข้างแรม ไม่มีแสงจันทร์มารบกวน


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก www.matichon.co.th

วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Mother's day

12 August 2010

วันนี้เป็นวันแม่แห่งชาติ !! 55+ ตอนเช้าก็เอาพวงมาลัย(ที่ซ่อนไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ><") มาไหว้คุณแม่ อิอิ เขินนเลย >//< แอบน้ำตาคลอด้วย YuY งืดๆ พอเสร็จสัพก็เดินทางกันไปที่สยามพารากอน ..

เนื่องจากที่ Vanilla Garden คนเต็ม! (ผิดที่จิ๊บที่ลืมโทรไปจองเอง-*-) เลยพาคุณแม่ไปทานข้าวเที่ยงที่ กิ่งกัลปพฤกษ์ ชั้น G สยามพารากอน แทน 55+ ร้านนี้เป็นร้านโปรดอีกร้านหนึ่งของจิ๊บเลย X)) เมนูเด็ดที่สั่งก็คือ ..
- โรตีแกงเนื้อพริกขี้หนู
- สลัดกุ้ง
- ทอดมันปลากราย
- ขนมปังหน้ากุ้ง
- สปาเกตตี้คาโบนาล่า กับ สปาเกตตี้ผัดหอยลาย
- ข้าวผัดแกงกะหรี่กุ้ง

หลายคนคงสงสัยว่า .. คนเดียวนี่กินขนาดนี้เลยหรอ?? 55+ จริงๆแล้วไปกัน 6 คนค่า ^^" มีครอบครัวน้องสาวไปด้วย แต่ทั้ง 2 บ้านคุณพ่อไม่ได้มาด้วยทั้งคู่ เพราะต้องไปถวายพระพร -*-




นอกจากนี้ยังได้พาคุณแม่ไปดูงานกล้วยไม้ที่จัดแสดงภายในนั้น สวยมากกกก :DD อยากซื้อกลับบ้าน แต่กลัวจะเลี้ยงได้ไม่สวยเท่าเขา แล้ว .. ก็จะไม่รอด 55+



หลังจากนั้น .. ก็ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง ช็อปปิ้งกันดีกว่า ฮ่าๆๆๆ เล่นเอาซะแม่ลูกขาลากเลย >.<"

จริงๆแล้วไม่จำเป็นว่าต้องรอให้ถึงวันแม่แล้วเราจึงค่อยบอกรักท่าน แต่เราสามารถบอกรักท่านได้ทุกวัน หรือแสดงความรักต่อท่านด้วยวิธีอื่นๆได้ตลอดเวลา เริ่มจากวันนี้กันเลยนะคะ . . ขอบคุณนะคะ ที่คุณแม่อยากได้ลูกสาว :)) แทนใจ* จุ๊บๆ >v<

วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กลยุทธ์การเชื่อมโยงอย่างอิสระ(ต่อ)

11 August 2010

พรุ่งนี้จะเป็นวันแม่แล้ว แอบซื้อพวงมาลัยมะลิมาซ่อนไว้ในตู้เย็น 55+ กลัวคุณแม่จะเห็นเข้า >.<" พรุ่งนี้กะว่าจะพาคุณแม่ไปทานข้าวที่ร้าน Vanilla Garden เอกมัย ซอย 12 และก็พาไปดูงานแสดงกล้วยไม้ที่สยามพารากอน (อาจมีการช็อปปิ้งเล็กน้อย ฮ่าๆ) เดี๋ยวจะมาเล่าบรรยากาศให้ฟังในวันหลังค่ะ :D

6 August 2010 .. วันที่เจ็ดของการเรียนวิชา Innovative Thinking ..

วันนี้อาจารย์สอนเรื่อง "กลยุทธ์การเชื่อมโยงอย่างอิสระ" ต่อจากการเรียนในคาบที่แล้ว นอกจากจะใช้แพร่งความคิดแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งก็คือ การใช้คำสุ่มเพื่อหาความคิดสร้างสรรค์(Random Stimulation) โดยมีวิธีการดังนี้

1. กำหนดปัญหาหรือหัวข้อที่ต้องการ
2. เลือกคำอย่างสุ่มขึ้นมา 1 คำ (พยายามอย่าเปลี่ยนคำใหม่)
3. หาแนวคิดจากพจนานุกรม หรือ หนังสืออื่นๆ ที่ไม่ใช่หนังสือจากศาสตร์ที่ตนศึกษาอยู่
4. ประยุกต์ใช้แนวคิดนั้นกับปัญหาที่เราสนใจ
5. หาไอเดียจากคำเหล่านั้นให้มากที่สุด

* การหาคำสุ่ม .. สามารถหาได้จากหลายแหล่ง เช่น
1. ใช้พจนานุกรมเลือกคำอย่างสุ่ม
2. ใช้หนังสือ หรือบทความนอกศาสตร์ของตน
3. เลือกวัตถุอย่างสุ่ม
4. สื่อโฆษณาตามสถานที่ต่างๆ

นอกจากอาจารย์จะสอนในชั้นเรียนแล้ว วันนั้นยังมีกิจกรรมพิเศษ .. นั่นคือ "Juggling!!" 55+ ซึ่งอาจารย์ท่านก็ใจดีสอนเทคนิคให้ แต่เนื่องจากเวลาเพียง 2 ชั่วโมง จิ๊บจึงสามารถโยนทั้ง 3 ลูกได้ต่อเนื่องแค่ 2 ครั้ง - -* ต้องฝึกบ่อยๆค่ะ เดี๋ยวจะทำได้เอง ^^"

หลานคนอาจจะสงสัยว่า Juggling คืออะไร? .. Juggling เป็นทักษาะในการย้ายวัตถุเพื่อความบันเทิง หรือ เป็นการเล่นกีฬา รูปแบบที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันมากที่สุด คือ การเล่นกลโยนสิ่งของ หรือ ลูกบอล แบบต่อเนื่อง (หลายคนอาจรู้จักในชื่อ "ปาหี่") วัตถุที่นิยมนำมาใช้โยน เช่น ลูกบอลลูกเล็กๆ วงแหวน หรือไม้กระบองสั้นๆ




สนุกนะคะ ^__^ เป็นการช่วยฝึกสมาธิ และพัฒนาสมอง กับระบบประสาทสัมผัสด้านต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะความสามารถในการใช้มือให้คล่องแคล่วและทำงานได้ดียิ่งขึ้น ลองหามาฝึกกันดูนะคะ :))

วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ECO CAR สัญชาติไทยแท้!!

5 August 2010

55 วันนี้ไม่มีอะไรมากค่ะ เพียงแต่ลองเปิดเว็บไซต์ www.dek-d.com ดูข้อมูลข่าวสาร แล้วไปเจอเรื่องราวน่าสนใจ จึงนำมาลง Blog ให้ได้ดูกัน ขอบอกว่าเจ๋งมากกก!! ;DD

ตอนนี้ถ้าใครอยากถอยรถใหม่ป้ายแดงมาขับในเมืองกรุงเทพมหานครหล่ะก็ .. จิ๊บขอแนะนำรถอีโคคาร์รุ่นใหม่ สัญชาติไทยแท้ คันแรกของโลก รับรองประหยัดสุดๆ 55+









ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ www.dek-d.com นะคะ ชอบมากกๆ ^__^

แต่เอ้ .. จิ๊บก็ไม่แน่ใจนะคะว่าถ้าโดนฝนแล้ว "รา" จะขึ้นหรือเปล่า ฮ่าๆๆ ช่วงนี้กรุงเทพฯยิ่งฝนตกหนักทุกวันอยู่ >v<

วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

คุณ Teddy Bear @v@

4 August 2010

ช่วงนี้พายุเข้า ฝนตกหนักทุ๊กกกวัน -*- แล้วก็ชอบตกตอนเช้า .. ที่ต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัย แล้วก็ชอบตกเย็น .. ตอนที่ทุกคนเลิกเรียนหรือทำงาน T^T อยากจะบ้าตาย .. ไม่สบายก็ยังไม่หาย ก็ต้องมาโดนฝน มาเจอรถติด น้ำท่วม ปีเตอร์ขึ้นมาจากท่อ บางทีก็มีเจอร์รี่ด้วย YY.YY บลา บลา บลาา .. นี่แหละ ชีวิตคนกรุงเทพฯ

หลายวันก่อนแกล้งสุนัขของตัวเอง 55+ จับเค้าถ่ายรูปตอนนอน (คุณแม่เป็นคนบอกให้แกล้ง อิอิ) ดูแล้วก็ตลกดี จับให้เค้าทำอะไรก็ทำตาม ไม่หือไม่อือ .. อ้อๆ สุนัขจิ๊บชื่อ "Teddy" ค่ะ ตอนนี้เค้าอายุประมาณ 2 ขวบแล้วค่ะ ได้มาตั้งแต่ตอนอายุ 1 เดือน มีรุ่นพี่ให้มาอีกที ก็ .. พอแกล้งเค้าเสร็จก็มานั่งดูรูปแต่ก่อนของTeddyกัน ตลกมากกกกก>.< เป็นสุนัขที่มีวิวัฒนาการอยู่ตลอดเวลาเลย55+ ดูรูปแล้วฮามาก (ลงรูปในนี้คงจะไม่หมด สาามารถติดตามดูรูปได้ที่ FACEBOOK นะคะ) แต่เอ้ .. ตอนได้เค้ามาใหม่ๆ ก็ถามรุ่นพี่เหมือนกันนะคะว่าพันธุ์อะไร?? .. พี่เค้าก็บอกว่า "อ๋อ ..ยอร์คเชีย เทอร์เรีย จ๊ะ" แต่ว่า .. ทำไมยิ่งโตยิ่งเปลี่ยนไปเรื่อยๆว้า .. 55+ >.<" เลยชักสงสัย นั่งหาข้อมูลในเว็บไซต์ดูว่าไอพันธุ์ยอร์คเชีย เทอร์เรียเนี่ย มันเป็นยังไงกันแน่ .. ผลที่ออกมาก็ทำให้รู้ว่า . . คุณ Teddy Bear เป็นหมาพันธุ์ทางชัวร์ !!! กร๊ดดดด OoO! แกไปผสมอะไรกับใครเค้ามาาา 555+ ไม่มีสัญชาติซะงั้น -*- ไม่สามารถระบุพันธุ์ได้ เพราะไม่ค่อยจะเหมือนยอร์คเชีย เทอร์เรียเลย T^T แต่เอาเหอะ ยังไงแกก็น่ารักนะ :))




ยอร์คเชีย เทอร์เรีย (Yorkshire Terrier)

สุนัขพันธุ์นี้เป็นสัตว์เลี้ยงแฟชั่นในสมัยสมเด็จพระนางวิคตอเรียสุนัขพันธุ์นี้เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ WATERSIDE TERRIER BLACH AND TAN ENGLISH TERRIER และCLYDESDALE TERRIER,YORKSHIRE TERRIER เป็นสุนัขที่มีขนาดเล็กขนยาวจรดพื้นขนเป็นประกายคล้ายแพรวไหมจึงเป็นที่นิยมเลี้ยงของสตรีทั่วไป สุนัขพันธุ์นี้ต้องได้รับการดูแลรักษาขนพอสมควร

มาตราฐานสายพันธุ์
อุปนิสัย : ฉลาด ร่าเริง
ศีรษะ : มีขนาดเล็ก ส่วนบนของหัวค่อนข้างแบน
หู : มีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นรูปตัว V หูตั้ง
ตา : มีขนาดปานกลาง ตามีสีเข้ม ตาแวววาวเป็นประกาย
ปาก : มีขนาดไม่ยาวมาก
จมูก : สีดำ
ฟัน : มีขนาดใหญ่ ขนแบบเสมอหรือขบแบบกรรไกร
ลำตัว : มีลักษณะสั้น เส้นตรงอยู่ในแนวระดับ
ขาหน้า : ตรง ข้อศอกไม่บิดเข้าหรือออก เท้ากลม เล็บสีดำ นิ้วติ่งต้องตัดออก
ขาหลัง : เมื่อมองจากด้านหลังขาหลังตั้งตรง ข้อเท้าทำมุมพอประมาณ เท้ากลม เล็บสีดำ นิ้วติ่งต้องตัดออก
หาง : ตัดให้สั้นพอประมาณ หางตั้งอยู่เหนือระดับหลัง
ขน-สี : คุณภาพของขนถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ขนมีลักษณะเหยียดตรงเป็นประกายคล้ายแพรวไหมขนบริเวณลำตัวให้เสมอพื้น ขนบริเวณหัวยาวอาจจะผูกด้วยโบว์เดี่ยวหรือโบว์คู่ก็ได้ขนที่ผ่า เท้าตัดให้สั้น บริเวณลำตัวสีเทาเข้มเงา บริเวณหัว อก และขา สีน้ำตาลเงา
ขนาด : เป็นสุนัขขนาดเล็ก
น้ำหนัก : ไม่เกิน 7 ปอนด์

ดูจากรูปแล้ว .. -*- เครียดค่ะเครียด 55+ แต่รู้สึกว่ายอร์คเชีย เทอร์เรีย จะมี 2 แบบ ซึ่งอีกแบบหนึ่งจะขนสั้นกว่านี้และหูตก (ค่อยมีความคล้ายกับ Teddy หน่อย ฮ่าๆๆ)


ส่วนTeddy หน้าตาแบบนี้ค่า .. ^^



รูปบนคือ ตอนเด็กๆ ส่วนตอนนี้ .. 55+ Big Nose Big Eyes & Big Foot!! :DD





ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ : www.petloversclub.com